สำหรับคนที่รักห้องครัวและชื่นชอบการทำอาหาร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแบบเคาน์เตอร์ครัวสวยๆ นั้นถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ครัวที่สำคัญไม่ต่างอะไรกับโต๊ะ ตู้ หรือเตาประกอบอาหารเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้การทำอาหารนั้นง่ายและสะดวกแล้ว เคาน์เตอร์ครัวที่ดียังช่วยคุมธีมทั้งหมดของห้องครัว ว่าจะออกมาให้รูปแบบไหน สไตล์ไหน
และในการออกแบบตกแต่งครัวให้สวยงามนั้น ก็ต้องเริ่มจากไอเดียแบบเคาน์เตอร์ครัวที่ถูกใจเสียก่อน ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาดู 20 ไอเดียแบบเคาน์เตอร์ครัวสวยๆ เพื่อคนรักการทำอาหารและการตกแต่งบ้านโดยเฉพาะ จะมีไอเดียแบบไหนที่น่าสนใจ และถูกใจเราบ้างนั้น ไปดูกันเลย
20 ไอเดียแบบเคาน์เตอร์ครัวสวยๆ ที่น่าสนใจ
1. แบบเคาน์เตอร์สีขาวที่เข้ากับทุกสไตล์
เคาน์เตอร์สีขาวช่วยเพิ่มความสว่าง โปร่งโล่งให้ห้องครัวและเข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์น คลาสสิก หรือมินิมอล
2. แบบเคาน์เตอร์ที่ตัดสีกับท๊อป
การเลือกสีเคาน์เตอร์ที่ตัดกับสีท๊อป เช่น ขาว-ดำ, ขาว-ลายไม้ จะสร้างมิติและความน่าสนใจให้กับห้องครัว และทำให้ห้องครัวดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
3. แบบเคาน์เตอร์หินอ่อนสุดหรู
วัสดุหินอ่อนนอกจากจะให้ความหรูหราและคลาสสิกแล้ว ยังทนทานต่อความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี เหมาะกับแบบเคาน์เตอร์ครัวที่ต้องการความสง่างาม และลุคที่ดูพรีเมียม
4. แบบเคาน์เตอร์ที่ตัดสีกับไอแลนด์
การออกแบบให้เคาน์เตอร์หลักและเคาน์เตอร์ไอแลนด์มีสีที่แตกต่างกัน ก็ช่วยสร้างจุดเด่นและความน่าสนใจให้กับห้องครัวได้ไม่น้อย
5. แบบเคาน์เตอร์ลายไม้สไตล์คลาสสิก
เคาน์เตอร์ลายไม้ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติให้กับห้องครัว เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์คลาสสิกและโมเดิร์น
6. เลือกแบบเคาน์เตอร์ที่มีลิ้นชักหรือช่องเก็บของ
เพิ่มพื้นที่จัดเก็บและทำให้ห้องครัวเป็นระเบียบมากขึ้น ให้ห้องครัวดูโล่ง สะอาดตา ไม่เกะกะ และยังสามารถจัดหมวดหมู่อุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวกและง่ายต่อการหยิบใช้ด้วย
7. มองหาแบบเคาน์เตอร์ที่ซ่อนมือจับ
ดีไซน์ลิ้นชักที่ซ่อนมือจับช่วยให้เคาน์เตอร์ดูเรียบและทันสมัย ตอบโจทย์การตกแต่งห้องครัวสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชัน
8. เลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวแกรนิต
วัสดุแกรนิตมีความทนทานสูง ทนทั้งความร้อน รอยขีดข่วน และรอยเปื้อนได้ดี เหมาะสำหรับครอบครัวที่ใช้ครัวหนัก
9. เลือกโทนสีและวัสดุเคาน์เตอร์กับผนังให้เข้ากัน
การเลือกโทนสีและวัสดุของเคาน์เตอร์ให้เข้ากับผนังช่วยสร้างความกลมกลืน ให้ตัวผนังดูเชื่อมกับเคาน์เตอร์ และทำให้ครัวดูกว้างขึ้น
10. เลือกวัสดุโลหะมาสร้างจุดเด่น
การเลือกวัสดุโลหะ เช่น สเตนเลส หรือทองเหลือง มาใช้ในจุดต่างๆ เช่น ด้ามจับ ก๊อกน้ำ หรือวัสดุตกแต่ง ก็จะเพิ่มความหรูหราได้ง่ายๆ
11. เลือกเคาน์เตอร์สเตนเลส
นอกจากจะให้ความเรียบทันสมัยแบบวัสดุโลหะแล้ว เคาน์เตอร์สเตนเลสยังมีความทนทาน และทำความสะอาด ทำให้เป็นแบบเคาน์เตอร์ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในครัวร้านอาหาร
12. เพิ่มแสงสว่างตามมุมต่างๆ ให้เพียงพอ
การติดตั้งไฟใต้ตู้หรือเหนือเคาน์เตอร์เพื่อเพิ่มแสงสว่างเฉพาะจุด ไม่เพียงแต่จะทำให้มองเห็นง่ายเท่านั้น แต่แสงสว่างก็สามารถสร้างจุดเด่นให้แบบเคาน์เตอร์ครัวมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ได้
13. เลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวสไตล์โมเดิร์น
เน้นความเรียบง่าย ลวดลายเส้นสายตรง และวัสดุที่มีความร่วมสมัย เช่น ไม้เนื้ออ่อน หรือหินสีเรียบๆ ก็จะสร้างความทันสมัยไม่ตกยุคให้กับห้องครัว
14. เลือกแบบเคาน์เตอร์เข้ามุมผนัง
การออกแบบเคาน์เตอร์ให้เหมาะกับมุมและผนังช่วยใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า เหมาะกับครัวขนาดเล็กหรือมีพื้นที่จำกัด
15. เลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวโทนสีดำสไตล์เข้มขรึม
สีดำให้ความเข้มขรึม หรูหรา ดุดัน และเท่ แถมเป็นสีที่ทำความสะอาดง่ายและไม่เห็นคราบสกปรกชัดเจน ไม่แปลกเลยทำไมถึงเป็นที่นิยม
16. เคาน์เตอร์ครัวดิบๆ สไตล์ลอฟต์
เน้นความดิบของวัสดุ เช่น ปูนเปลือย เหล็ก หรือไม้ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการความโมเดิร์น ทันสมัยแต่ไม่จัดจ้านเกินไป
17. เลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวสไตล์ญี่ปุ่น
เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา และใช้วัสดุธรรมชาติ โดยเฉพาะไม้โทนสีอ่อนผสมกับสีขาว สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
18. แบบเคาน์เตอร์ครัวปูนที่ทนทาน
มีความแข็งแรงทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี เหมาะกับครัวอาหารไทยที่ต้องใช้แรงในการประกอบอาหาร
19. แบบเคาน์เตอร์ครัวแบบซุ้ม
การออกแบบเคาน์เตอร์เป็นซุ้มที่ผนังกั้น ช่วยแบ่งพื้นที่ระหว่างครัวกับพื้นที่ข้างนอกได้ชัดเจน เหมาะกับครัวที่ต้องการแยกโซนห้องเป็นสัดส่วน
20. แบบเคาน์เตอร์ครัวสไตล์เดนมาร์ก
เน้นความเรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งาน และดีไซน์ที่ไม่ซับซ้อน ตามแบบฉบับดีไซน์จากเดนมาร์กที่เน้นคุณภาพและความคุ้มค่า

เคาน์เตอร์ครัวคืออะไร
เคาน์เตอร์ครัวเป็นเฟอร์นิเจอร์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและพื้นที่ในการทำอาหาร ทั้งการเตรียมวัสดุดิบ ปรุง และจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ในครัว และยังเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดลุคและความสวยงามของห้องครัวอีกด้วย
โดยทั่วไปแล้วเคาน์เตอร์ครัวสูงประมาณ 85-95 เซนติเมตร ซึ่งเป็นความสูงที่เหมาะสมกับการยืนทำอาหาร ทำให้ไม่ต้องก้มหรือเงยมากเกินไปเวลาทำอาหาร และมีความลึกประมาณ 60 เซนติเมตรขึ้นไป ส่วนความยาวมักจะไม่มีตัวเลขที่ตายตัว เพราะเคาน์เตอร์ครัวขนาดจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ห้องครัวและการใช้งานเป็นหลัก
ประโยชน์ของเคาน์เตอร์ครัว
- ทำให้ครัวมีพื้นที่จัดเก็บสิ่งของและอุปกรณ์มากขึ้น
- ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเตรียม และปรุงอาหาร
- ทำให้ห้องครัวของเรามีความสวยงาม เป็นระเบียบและมีเอกลักษณ์เฉพาะ
- เคาน์เตอร์แบบไอแลนสามารถใช้แทนโต๊ะรับประทานอาหารหรือบาร์ได้
ประเภทของเคาน์เตอร์ครัวมีแบบไหนบ้าง
การเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะกับบ้านและการใช้งานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเคาน์เตอร์ครัวจะอยู่คู่บ้านเราไปอีกนาน ปัจจุบันเคาน์เตอร์ครัวมีหลากหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณ
1. เคาน์เตอร์สำเร็จรูป (Ready-made Counter)
เคาน์เตอร์ครัวสําเร็จรูปเป็นตัวเลือกที่สะดวกและติดตั้งง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านวัสดุตกแต่งบ้านทั่วไป แบบเคาน์เตอร์ครัวประเภทนี้ถูกออกแบบและผลิตมาแล้วจากโรงงาน จึงมีขนาดและรูปแบบให้เลือกจำกัด แต่ข้อดีคือสามารถติดตั้งได้รวดเร็วและเคลื่อนย้ายได้สะดวก มักนิยมวางแบบเดี่ยวหรือคู่ หรือจัดวางเป็นรูปตัวแอล ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาชุดครัวสําเร็จรูปราคาประหยัด
2. เคาน์เตอร์บิ้วอิน (Built-in Counter)
เคาน์เตอร์บิ้วอินครัวเป็นเคาน์เตอร์ที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งาน สามารถกำหนดได้ทั้งวัสดุ ขนาดเคาน์เตอร์ครัว ความสูง สี ลวดลาย และฟังก์ชันการใช้งานได้ตามต้องการ แบบเคาน์เตอร์ครัวประเภทนี้เหมาะสำหรับห้องครัวที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือมีพื้นที่จำกัดและต้องการแบบเคาน์เตอร์ครัวบิ้วอินที่พอดีกับพื้นที่
3. เคาน์เตอร์ปูน (Concrete Counter)
เคาน์เตอร์ครัวปูนสวยๆเป็นทางเลือกที่อยู่คู่กับบ้านคนไทยมานาน เหมาะสำหรับครอบครัวที่ทำอาหารไทยและต้องการความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ แบบเคาน์เตอร์ครัวปูนมีวิธีการติดตั้งหลักๆ 2 แบบ คือ
- การหล่อคอนกรีต: ใช้อิฐมอญหรืออิฐมวลเบาก่อเป็นฐาน พร้อมเสริมเหล็กภายใน สำหรับเคาน์เตอร์ลอยติดผนัง จะใช้วิธีเจาะเหล็กเสริมเชื่อมติดกับผนัง จากนั้นจึงเทคอนกรีตลงไป
- การใช้แผ่นคอนกรีตมวลเบา: เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วกว่า โดยใช้แผ่นคอนกรีตมวลเบาสำเร็จรูปมาประกอบเป็นรูปทรงเคาน์เตอร์ที่ต้องการ ยึดติดด้วยปูนกาว แล้วฉาบปูนทับให้เรียบ
4. เคาน์เตอร์ไอแลนด์ (Island Counter)
เคาน์เตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้วางอยู่กลางห้องครัว สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร หรือรับประทานอาหารก็ได้ ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เคาน์เตอร์สไตล์นี้เหมาะสำหรับห้องครัวในบ้านที่มีพื้นที่กว้างๆ
เทคนิคเลือกเคาน์เตอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน
1. เลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่
การเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะกับพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพราะขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมจะช่วยให้ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยรูปแบบการจัดครัวที่สำคัญ มีดังนี้
- เคาน์เตอร์รูปตัวไอ (I-Shape Kitchen): เป็นการวางเคาน์เตอร์เป็นแนวเส้นตรงขนานกับผนัง เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม
- เคาน์เตอร์รูปตัวแอล (L-Shape Kitchen): วางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอลเข้ามุมห้อง ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและแบ่งโซนการทำงานได้ชัดเจน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ครัวปานกลาง
- เคาน์เตอร์รูปตัวยู (U-Shape Kitchen): ให้พื้นที่ทำงานและจัดเก็บมากที่สุด เหมาะกับบ้านที่มีห้องครัวขนาดใหญ่ใช้งานหนัก หรือห้องครัวขนาดเล็กที่เป็นตรอกมุม
- เคาน์เตอร์แบบจัดตรงกลาง (Island Kitchen): เพิ่มพื้นที่ทำอาหารและใช้เป็นที่นั่งรับประทานอาหารได้ แต่ต้องมีพื้นที่เพียงพอในการติดตั้ง
2. เลือกตามการใช้งาน
การเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวตามลักษณะการใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญ เคาน์เตอร์ครัว สูงและวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
- ผู้ที่ไม่ได้ทำอาหารจริงจัง: เน้นเข้าครัวเพื่ออุ่นอาหารหรือชงกาแฟ ชุดครัวสําเร็จรูปขนาดเล็กก็เพียงพอ และเน้นความสวยงามและดูแลง่ายเป็นหลักแทน
- ผู้ที่ชอบทำอาหารและอยู่ห้องคอนโด: ควรเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวแบบบิ้วอิน เพราะออกแบบให้พอดีกับพื้นที่จำกัด แถมยังติดตั้งง่าย พร้อมใช้งาน ช่วยให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าขึ้น
- ครอบครัวที่ทำอาหารจัดเต็มทุกมื้อ: ควรเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวแบบปูน เพราะทนทานต่อการทำอาหารทั้งไทยและเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตำ โขก ทุบ สับ ครัวแบบนี้ควรใช้วัสดุเคาน์เตอร์ที่เน้นความทนทานเป็นหลัก เช่น หินแกรนิต หรือสเตนเลส
3. เลือกให้เข้ากับการตกแต่งบ้าน
การเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวให้เข้ากับสไตล์บ้านช่วยให้ครัวดูกลมกลืนและสวยงาม เพราะการออกแบบห้องครัว หรือ Kitchen Design ที่ดี ต้องเข้ากับการตกแต่งบ้านโดยรวมโดยที่ไม่รู้สึกแปลกแยก เช่น
- บ้านสไตล์โมเดิร์น: เหมาะกับแบบเคาน์เตอร์ครัวที่มีความเรียบง่าย เน้นสีโทนเย็น วัสดุผิวมันเงาหรือด้าน เช่นสเตนเลส โลหะ กระจก หิน และไม้
- บ้านสไตล์คันทรีหรือวินเทจ: เหมาะกับเคาน์เตอร์ที่ใช้ไม้หรือวัสดุที่ให้โทนอบอุ่น และแบบเคาน์เตอร์ครัวสําเร็จรูปที่มีลวดลายก็จะเพิ่มเสน่ห์ให้ครัวสไตล์นี้ไม่น้อย
- บ้านสไตล์ลอฟต์: เหมาะกับเคาน์เตอร์ที่ดูดิบ โชว์วัสดุที่ใช้ เช่น คอนกรีตเปลือย เหล็ก หรือไม้แบบไม่ขัดเงา
- บ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน: เหมาะกับแบบเคาน์เตอร์ครัวที่เรียบง่าย โทนสีขาวหรือสีอ่อน อาจเพิ่มไม้สีอ่อนเล็กน้อย
เคาน์เตอร์ครัวไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับทำอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยกำหนดทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยของห้องครัวทั้งหมด การเลือกเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะกับบ้านของคุณ ต้องพิจารณาทั้งขนาดพื้นที่ ลักษณะการใช้งาน และสไตล์การตกแต่งบ้าน เพราะเคาน์เตอร์ครัวจะอยู่กับบ้านคุณไปอีกนาน จึงควรเลือกให้ถูกใจและตอบโจทย์การใช้งานจริง หวังว่าทั้ง 20 ไอเดียแบบเคาน์เตอร์ครัว และ 30 ไอเดียห้องครัวของเราจะช่วยจุดประกายให้คุณสามารถเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวที่ใช่สำหรับบ้านในฝันของคุณ

สัมผัสห้องครัวสไตล์เดนมาร์กที่ Kvik
Kvik เป็นผู้นำด้านการออกแบบห้องครัวสไตล์เดนมาร์กมานานกว่า 30 ปี ด้วยแนวคิดปฏิวัติวงการครัวทั้งในด้านดีไซน์ที่ทันสมัย การจัดส่งที่รวดเร็ว และแนวคิด ‘Sociable Kitchen®’ ที่จะเปลี่ยนพื้นที่ห้องครัวให้เชื่อมต่อกับทุกการดำเนินชีวิต และเรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอครัวที่นำเข้า 100% จากประเทศเดนมาร์ก ส่งตรงจากโรงงานในเมืองวิลด์บเยร์ก เพราะเราเชื่อว่า “ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของครัวสไตล์เดนมาร์กแท้จริงได้”
เยี่ยมชม โชว์รูมของเราทั่วเอเชีย หรือเริ่มต้นด้วยการนัดหมายปรึกษาฟรีกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้แล้ววันนี้